เหตุผลในการสงสัย ของ เผาตำรา ฝังบัณฑิต

นักคิดและปัญญาชน มิชาเอล ไนลัน ตั้งข้อสังเกตว่า “ถึงแม้ว่ามันเป็นความสำคัญในรูปแบบเทพนิยาย ตำนานของการเผาหนังสือก็ไม่ได้รับการพิจารณาอย่างเป็นความลับ” ไนลันนำเสนอว่า เหตุผลที่นักวิชาการสมัยราชวงศ์ฮั่นกล่าวหาราชวงศ์ฉินว่าทำลายคัมภีร์ทั้งห้าในปรัชญาขงจื้อนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการ “ใส่ร้ายป้ายสี” ให้กับรัฐที่พวกเขาปราชัยและส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่านักคิดและปัญญาชนสมัยราชวงศ์ฮั่นเข้าใจผิดในเรื่องธรรมชาติของข้อความ เพราะมันเป็นเพียงแค่หลังจากการก่อตั้งราชวงศ์ฮั่นซึ่งซื่อ หม่าเซียนติดป้ายหลักปรัชญาทั้ง 5 เป็น “ลัทธิขงจื้อ” ไนลันยังได้ชี้ให้เห็นอีกด้วยว่าราชสำนักฉินแต่งตั้งนักคิดและปัญญาชนชั้นเอกผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญว่าดัวย “บทกวีคลาสสิค” และ “เอกสาร” ซึ่งหมายความว่าข้อความเหล่านี้จะถูกยกเว้น และว่า “หนังสือแห่งพิธีกรรม” และ “บันทึกฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง” ไม่ได้บรรจุไว้ในการถวายพระเกียรติของรัฐศักดินาที่พ่ายแพ้ซึ่งจักรพรรดิจิ๋นซีทรงให้เหตุผลเพื่อการทำลายบรรดารัฐเหล่านั้น[2] มาร์ติน เคิร์น เพิ่มเติมว่าบันทึกและคัมภีร์ของราชวงศ์ฉินและต้นราชวงศ์ฮั่นมักอ้างถึงงานเขียนคลาสสิค โดยเฉพาะใน “เอกสาร” และใน “คัมภีร์คีตาคาถา” ซึ่งเป็นไปไม่ได้ถ้าบันทึกและคัมภีร์เหล่านี้ไม่ถูกเผา ตามที่รายงาน[3]

เรื่องราวการประหารชีวิตบรรดาเหล่านักคิดและปัญญาชนของ ซือหม่า เชียน มีความยุ่งยากเหมือนกัน หนึ่ง ไม่มีข้อความก่อนหน้าบันทึกสื่อจี้กล่าวถึงการประหารชีวิต บันทึกสื่อจี้กล่าวว่าไม่มีชื่อของนักคิดและปัญญาชนในสำนักวิชาขงจื้อคนใดเป็นเหยื่อของการประหารชีวิต และในความเป็นจริงแล้วไม่มีข้อความใดกล่าวถึงการประหารชีวิตเลย จนกระทั่งคริสตศตวรรษที่ 1 การใช้สำนวน “เผาตำราและประหารนักคิดและปัญญาชนสำนักวิชาขงจื๊อ” ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักที่เก่าแก่ที่สุดไม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้จนกระทั่งต้นศตวรรษที่ 4[3]